รวม 15 ตัวอย่างการโน้มน้าวใจ จาก 15 คนดังระดับโลก

รวม 15 ตัวอย่างการโน้มน้าวใจ จาก 15 คนดังระดับโลก

ทักษะการพูดเป็นทักษะสำคัญที่จะช่วยให้เราสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่การพูดเองก็มีอยู่หลายแบบด้วยกัน ทั้งการพูดเพื่อให้ความรู้ การพูดเพื่อการจรรโลงใจ หรือแม้แต่การพูดเพื่อโน้มน้าวใจ และเคยสังเกตไหมคะว่าทำไมวิธีการพูดโน้มน้าวใจถึงดูยากกว่าการพูดแบบอื่น และทำไมคนดังระดับโลกถึงมีคำคมหรือคำพูดที่ฟังแล้วรู้สึกคล้อยตาม พวกเขามีวิธีการอย่างไรถึงโน้มน้าวใจเราให้เชื่อได้นะ ? วันนี้ DIY INSPIRE NOW มี ตัวอย่างการโน้มน้าวใจ จากคนดังระดับโลกในแวดวงต่างๆ มาฝากค่ะ

มารู้จักกับนิยามของคำว่าการพูดโน้มน้าวใจกันก่อน

วิธีการพูดโน้มน้าวใจ หมายถึง การพูดในลักษณะเชิญชวน เกลี้ยกล่อม หรือชักจูงให้ผู้ฟังเกิดความรู้สึกคล้อยตาม เกิดความเชื่อถือและศรัทธาในคำพูดนั้น รวมถึงนำเอาแนวคิดจากคำพูดเหล่านั้นไปปฏิบัติตามในชีวิตของตัวเองด้วย การพูดในลักษณะนี้รวมถึงการพูดโฆษณา การพูดปราศรัยหาเสียง พูดเชิญชวนหรือชักจูงให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทัศนคติ ไปจนถึงการพูดปลุกเร้าเพื่อให้เกิดปฏิกิริยาตามที่คาดหวังด้วย แต่อย่างไรก็ตามผู้พูดโน้มน้าวใจที่ดีนั้นต้องพูดเพื่อเปลี่ยนแปลงทัศนคติและความเชื่อไปในทางที่ดีงามอันเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาของผู้ฟัง ไม่ชักนำเพื่อเห็นแก่ประโยชน์ของตัวเองนะคะ

ตัวอย่างการโน้มน้าวใจ จากคนดังในวงการต่างๆ จะมีใครบ้าง ตามมาอ่านกันต่อค่ะ

  1. ไม่ใช่เรื่องผิดหากเราเฉลิมฉลองเมื่อประสบความสำเร็จ แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือการเรียนรู้จากความล้มเหลว- Bill Gates : ตัวอย่างการโน้มน้าวใจจากมหาเศรษฐีผู้เป็นเจ้าพ่อ Microsoft อย่าง Bill Gates ที่ช่วยปรับทัศนคติของใครหลายคนที่เคยกลัวความผิดพลาดให้มองเรื่องที่เราเคยทำผิดในมุมใหม่ เรียนรู้จากมัน และพัฒนาตัวเองต่อไปในอนาคต เป็นการพูดที่ทำให้เรามองเห็นแนวทางวิธีพัฒนาตนเองจากความล้มเหลว และไม่กลัวที่จะลองทำสิ่งใหม่ๆ ค่ะ
  2. คิดเหมือนราชินี ราชินีไม่กลัวความล้มเหลว เพราะความล้มเหลวเป็นอีกก้าวหนึ่งสู่ความยิ่งใหญ่ – Oprah Winfrey : คำพูดของโอปราห์ วินฟรีย์ สตรีคนเก่งผู้มีอิทธิพลต่อการปลุกความกล้าและความเชื่อมั่นในตัวเองของสาวๆ ออกมา เป็นวิธีโน้มน้าวใจให้ผู้หญิงมีความกล้าที่จะทำสิ่งต่างๆ โดยที่ไม่ต้องกลัวความล้มเหลว และมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น
  1. คิดค้นนวัตกรรมเพื่อวันพรุ่งนี้ ดีกว่ามากังวลสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวาน – Steve Jobs : ตัวอย่างการโน้มน้าวใจจากพ่อมดแห่งวงการสมาร์ทโฟนอย่าง Steve Jobs ที่ช่วยทำให้เรากล้าที่จะเดินต่อไป ไม่มานั่งกังวลถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต และใช้เวลาเพื่อคิดค้นสิ่งที่ดีกว่าเพื่ออนาคต
  2. ส่วนใหญ่สิ่งต่างๆ ดำเนินไปอย่างที่คุณต้องการให้มันเป็นไป คุณควบคุมชีวิตของคุณเอง เจตจำนงของคุณมีพลังมหาศาล – J.K.Rowling : เจ เค โรว์ลิง นักเขียนหญิงชื่อดังระดับโลก เป็นผู้กล่าวประโยคนี้ และเป็นเจ้าของผลงานวรรณกรรมเยาวชนชุด “แฮร์รี่ พอตเตอร์” ไม่มีใครที่ไม่รู้จักหนังสือเรื่องนี้ ซึ่งประโยคนี้เป็นการสร้างกำลังใจและเป็นวิธีโน้มน้าวใจให้เราเดินในเส้นทางที่เราอยากจะไปให้ดี เพราะเรานั่นแหละที่เป็นคนกำหนดชีวิตตัวเอง แม้ในช่วงแรกๆ นั้นเส้นทางการเป็นนักเขียนยังคงขรุขระอยู่บ้าง แต่ก็ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคและไม่ยอมแพ้ สุดท้ายเธอก็ทำสำเร็จ
  3. สังคมของเราต้องการฮีโร่ที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย และวิศวกรมากขึ้น เราจำเป็นต้องยกย่องและให้รางวัลแก่ผู้คนที่ช่วยขยายขอบเขตความเข้าใจของมนุษยชาติและทำงานเพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้คน – Mark Zuckerberg : ประโยคนี้ของ Mark พ่อก่อตั้ง Facebook เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในการสร้างแรงบันดาลใจและโน้มน้าวใจให้ผู้คนเห็นความสำคัญของหลายๆ อาชีพมากขึ้น โดยเฉพาะอาชีพที่มีส่วนในการสร้างนวัตกรรมและความรู้ใหม่ๆ และอาชีพที่ช่วยดูแลคุณภาพชีวิตของคนทั่วไปโดยเฉพาะ
  4. การกระทำที่กล้าหาญที่สุดคือ การคิดเพื่อตัวเอง และคิดออกมาดังๆ ด้วย – Coco Chanel : ตัวอย่างการโน้มน้าวใจที่ช่วยปลุกพลังการทำเพื่อตัวเองจากผู้ก่อตั้งแบรนด์แฟชั่นระดับโลก COCO CHANEL เพราะการทำตามความต้องการของตัวเองและทำเพื่อตัวเองอย่างแท้จริงนั้น อาจทำให้เราประสบความสำเร็จอย่างที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนก็ได้
  5. ถ้าคุณไม่ลองพยายาม คุณจะมองเห็นโอกาสได้อย่างไร ? – Jack Ma : ตัวอย่างการโน้มน้าวใจจาก Jack Ma นักธุรกิจชาวจีนที่ประสบความสำเร็จและกลายเป็นคนดังระดับโลก ที่พูดให้เรากล้าที่จะลองทำ เพราะหากไม่ลองก็อาจมองไม่เห็นโอกาสใหม่ๆ ที่รออยู่
  1. ถ้าคุณโชคดีพอที่ได้เกิดมาแตกต่าง อย่าได้เปลี่ยนแปลงมัน – Taylor Swift : ประโยคนี้ เป็นวิธีโน้มน้าวใจให้ทุกคนยอมรับในความแตกต่างของตัวเองและจงภูมิใจกับมัน จากนักร้องชื่อดัง เทย์เลอร์ สวิฟต์ ที่มีผลงานเพลงอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ เธอกวาดรางวัลด้านงานดนตรีมานับไม่ถ้วน และผลงานเพลงก็ยังเป็นที่นิยมในวงกว้าง การที่เรานำเสนอเอกลักษณ์และความแตกต่างของตัวเองออกมาอย่างโดดเด่น อาจทำให้ได้รับความชื่นชมและเป็นที่ชื่นชอบก็ได้นะคะ
  2. ถ้าทำอะไรแล้วหมดสนุกก็ได้เวลาก้าวต่อไปแล้ว ชีวิตสั้นเกินกว่าจะมัวนั่งเศร้าและอยู่อย่างหมดหวัง นั่นไม่ใช่การใช้ชีวิตที่ถูกต้อง – Richard Branson : ใครกำลังหมดไฟในการเรียนหรือการทำงานต้องลองฟังการพูดดีๆ จาก Richard Branson ผู้เป็นเจ้าของธุรกิจมากกว่า 360 บริษัท เขาช่วยทำให้เรามองเห็นว่าการใช้ชีวิตควรมีอะไรมากกว่าการฝืนทำสิ่งที่ไม่ชอบ และมนุษย์เราควรให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตที่มีความสุข
  3. อย่าตัดสินคนจากสิ่งที่เขาเคยเป็นมาก่อน ปล่อยให้เขาได้แสดงตัวตนแล้วมองที่ปัจจุบัน ไม่ใช่อดีต – Tom Hiddleston : นักแสดงหนุ่มเจ้าบทบาทจากเกาะอังกฤษ กล่าวประโยคนี้เพื่อเป็นการโน้มน้าวใจเราว่า ไม่ควรตัดสินใครจากอดีตของคนๆ นั้น เพราะแต่ละคนก็เคยผิดพลาดหรือเดินในเส้นทางที่ผิดกันมาทั้งสิ้น และตัวตนในปัจจุบันต่างหากที่สำคัญที่สุด ณ ตอนนี้
  4. ควมสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าคุณทำเงินได้มากเท่าไหร่ แต่มันอยู่ที่ว่าคุณสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับชีวิตคนอื่นๆ ได้มากเท่าไหร่ต่างหาก – Michelle Obama : คำพูดจากอดีตสตรีหมายเลข 1 แห่งสหรัฐอเมริกา ที่อาจจะเป็นวิธีโน้มน้าวใจและเป็นการเปิดมุมมองให้กับคนที่กำลังแสวงหาความสำเร็จในชีวิตอยู่ว่า ความจริงแล้วเราต้องการอะไรกันแน่ เงินและความมั่งคั่งจะนำมาซึ่งสุขได้จริงๆ หรือเปล่า หรือแท้จริงแล้ว ความสำเร็จที่ยั่งยืนคือการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับชีวิตคนอื่นๆ เพื่อให้พวกเขาเหล่านั้นมีชีวิตที่ดีขึ้นนั่นเอง
  5. ถ้าจะซื้ออะไร ก็ควรซื้อสิ่งที่คุณจะถือครองมันอย่างมีความสุข แม้ตลาดหุ้นจะปิดตัวไปอีก 10 ปี – Warren Buffett : พ่อมดแห่งตลาดหุ้นกล่าวประโยคนี้เพื่อเป็นข้อคิดให้นักลงทุนที่ต้องการซื้อหุ้นระยะยาว เขาไม่ได้บอกว่าควรซื้อหุ้นตัวไหน แต่โน้มน้าวให้เราปรับความคิดว่าหากต้องการซื้อหุ้นสักตัว ก็ควรซื้อหุ้นที่เรารู้สึกดีที่จะถือครองมันในระยะยาว และยังเป็นตัวอย่างการโน้มน้าวใจที่นำไปปรับใช้ได้กับหลายๆ ด้านของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการซื้อหรือทำอะไร ลองคิดดีๆ ว่าเรารับได้ไหมกับการตัดสินใจที่อาจส่งผลไปอีกนาน
  1. คนบางคนไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง แต่คุณต้องโอบกอดความเปลี่ยนแปลงนั้นไว้หากการอยู่กับที่หมายถึงความพินาศ – Elon Musk : มหาเศรษฐีอัจฉริยะอย่าง Elon Musk ขึ้นชื่อในเรื่องความฉลาด อารมณ์ขัน และประโยคจิกกัดแสบๆ คันๆ อยู่แล้ว การโน้มน้าวใจจึงออกมาในสไตล์ที่เป็นตัวเขาเอง อย่างประโยคนี้ที่ชี้ให้เห็นว่าคนเราไม่ควรกลัวการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการอยู่กับที่คือหนทางที่ทำให้เราถอยหลังเข้าคลอง
  1. มันอาจจะฟังดูน่าเบื่อนะ แต่ก่อนที่คุณจะไปตกหลุมรักใคร หรือพยายามหาคนที่เหมาะสม คุณควรจะรักตัวเองและเข้าใจในสิ่งที่ตัวเองเป็นก่อน – Emma Watson : มาดูกันที่วิธีโน้มน้าวใจในเรื่องมุมมองความรักกันบ้าง จากนักแสดงชื่อดังที่เป็นขวัญใจทั้งหนุ่มๆ และสาวๆ ทั่วโลก เอ็มมา วัตสันบอกกับเราว่า ก่อนที่จะรักใครหรือมีความสัมพันธ์กับใคร เราควรจะรักตัวเองก่อน เพราะการรักตัวเองคือจุดเริ่มต้นของการมีความสัมพันธ์ที่ดี เพราะเราเองจะเข้าใจตัวเองอย่างถ่องแท้ว่าตัวเองต้องการอะไร ต้องการความรักแบบไหน และเลือกความสัมพันธ์ที่ดีเข้ามาในชีวิตได้
  2. ความสำเร็จของผู้หญิงทุกคนควรเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้อื่น เราแข็งแกร่งที่สุดเมื่อเราให้กำลังใจซึ่งกันและกัน – Serana Williams : เจ้าของคำกล่าวนี้คือ Serana นักเทนนิสหญิงตัวเต็งระดับโลก ซึ่งเป็นตัวอย่างการโน้มน้าวใจให้ผู้หญิงแต่ละคนชื่นชมยินดีกับความสำเร็จของกันและกัน เพราะถ้าเราอยากให้มีคนมาให้เกียรติและชื่นชมยินดีในตัวเรานั้น เราก็ต้องชื่นชมกันเองก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อให้คนอื่นเห็นว่า ผู้หญิงเราแข็งแกร่งและมีความสามารถเพียงใด

เทคนิคการพูดโน้มน้าวใจที่นำไปใช้ได้จริง

เราได้เห็นตัวอย่างวิธีการพูดโน้มน้าวใจจากคนดังระดับโลกกันไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคนดังในแวดวงธุรกิจนวัตกรรม หรือเป็นคนบันเทิง เป็นนักเขียน นักกีฬา หรือสตรีผู้มีอิทธิพลในระดับโลกก็ตาม สังเกตว่าแต่ละประโยคนั้นต่างเป็นประโยคที่สร้างแรงบันดาลใจหรือจุดประกายอะไรบางอย่างให้กับเราได้ ซึ่งนอกจากประโยคที่มีอิทธิพลต่อความคิดความรู้สึกของเราแล้วนั้น มีองค์ประกอบอื่นๆ อะไรอีกบ้างที่เราสามารถพูดโน้มน้าวใจให้คนอื่นรู้สึกคล้อยตามได้ มาดูกันค่ะ

1. บุคลิกต้องน่าเชื่อถือ

ได้รู้จักตัวอย่างการโน้มน้าวใจจากคนดังไปแล้ว หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมสิ่งที่พวกเขาพูดดูมีพลัง สร้างแรงบันดาลใจ และโน้มน้าวใจเราให้เชื่อถือได้ ปัจจัยแรกเลยก็คือบุคลิกนั่นเองค่ะ ในแต่ละครั้งที่บรรดาคนดังไปออกรายการสัมภาษณ์หรือไลฟ์สตรีมผ่านช่องทางออนไลน์ พวกเขามักปรากฎตัวด้วยบุคลิกภาพที่ภูมิฐาน ดูดี และเป็นกันเอง แต่ในขณะเดียวกันก็มีความมั่นใจเต็มเปี่ยม และนั่นก็คือปัจจัยแรกที่ทำให้เรารู้สึกวางใจและมองว่าพวกเขาน่าเชื่อถือ

2. น้ำเสียงและการมีปฏิสัมพันธ์

น้ำเสียงที่น่าฟังคืออีกปัจจัยที่ทำให้การพูดโน้มน้าวใจดูทรงพลังมากขึ้น รวมถึงการเลือกใช้จังหวะ การผ่อนความเบาความดัง และการเน้นเสียงที่ต้องการจะสร้าง impact ให้กับผู้ฟัง ที่สำคัญคือ ต้องไม่ลืมใช้ภาษากายและสบตากับผู้ฟังอย่างทั่วถึงด้วยนะ

3. อย่าลืมประเด็นสำคัญของการพูด

การพูดโน้มน้าวใจแต่ละครั้งต้องมีเป้าหมายเสมอ เช่น พูดเพื่อขายของ พูดเพื่อเปลี่ยนทัศนคติ พูดเพื่อสร้างแนวคิดใหม่ๆ เป็นต้น การลืมประเด็นสำคัญจะทำให้การพูดดูไม่มีน้ำหนัก ไม่สามารถจับประเด็นสำคัญได้ ไม่น่าติดตาม และชวนสับสนจนผู้ฟังไม่สามารถโฟกัสกับสิ่งที่เราต้องการสื่อสารได้

4. ข้อมูลต้องชัดเจน

การเตรียมความพร้อมที่ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง คนดังส่วนใหญ่พูดโน้มน้าวใจผู้ฟังจากประสบการณ์ตรงในชีวิตของตัวเอง เพราะในชีวิตของแต่ละคนนั้นผ่านสิ่งต่างๆ มามากมายจนสามารถเก็บเกี่ยวความรู้ ประสบการณ์ และวิธีรับมือกับปัญหาเอาไว้หลากหลายรูปแบบ เมื่อนำเสนอให้เราฟังจึงดูน่าสนใจและมีความน่าเชื่อถือ ดังนั้นหากใครอยากพูดเพื่อโน้มน้าวใจคนฟัง อย่าลืมเตรียมข้อมูลเอาไว้ให้พร้อมที่สุดเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและก่อให้เกิดการคล้อยตามได้นั่นเองค่ะ

Inspire Now ! :

DIY INSPIRE NOW ทำให้ฉันเป็นคนใหม่ที่ดีกว่าใช่ไหม ? ใครชื่นชอบการพูดจากคนดังคนไหนบ้าง และคุณมีประสบการณ์โน้มน้าวใจคนอื่นอย่างไร มาแชร์เรื่องราวกับเราได้เลยนะคะ ♡

อ้างอิงข้อมูลบางส่วนจาก : wisdomquotes.com, awakenthegreatnesswithin.com, theceomagazine.com, posttoday.com

Featured Image Credit : vecteezy.com/Akarawut Lohacha

Bình luận đã bị đóng.