บัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า “บัตรคนจน” นับเป็นหนึ่งในมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้มีรายได้น้อย เรื่องค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ค่าเดินทาง ค่าก๊าซหุงต้ม และค่าน้ำค่าไฟ เรียกได้ว่าเป็นโครงการ สวัสดิการจากรัฐ ยอดฮิตไม่แพ้กับโครงการคนละครึ่ง หรือเราเที่ยวด้วยกัน ที่ภาครัฐออกมาช่วยเหลือประชาชนหลายต่อหลายเฟส

แน่นอนว่าการกลับมาของ “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ในครั้งนี้ ได้รับผลตอบรับดีเหมือนเคย สังเกตได้จากยอดลงทะเบียนของประชาชนทั่วประเทศกว่า 22,293,473 ราย

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐคืออะไร

โครงการนี้เป็นหนึ่งในสวัสดิการของรัฐบาลที่มอบให้กับประชาชนผู้มีรายได้น้อย ไม่เกิน 1 แสนบาท/ปี ทำให้หลายคนเรียกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแบบเข้าใจว่าบัตรคนจนนั่นเอง

ส่วนประโยชน์ของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คือเอาไว้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลอันเนื่องมาจากสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ โดยวงเงินในบัตรนั้นใช้จ่ายได้ทั้งค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ซื้อข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีพ ทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ ค่าน้ำค่าไฟ โดยนำบัตรนั้นไปใช้จ่ายได้ที่ร้านค้าที่เข้าร่วมกับทางภาครัฐซึ่งมีสัญลักษณ์ธงฟ้า อย่างไรก็ตามตั้งแต่เปิดให้โครงการนี้ขึ้นมา พบว่ามีผู้สวมสิทธิ์เข้ามารับสวัสดิการนี้จำนวนมาก (รายได้เกินหนึ่งแสนบาทขึ้นไป)

คุณสมบัติในการรับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

เมื่อรัฐบาลมองว่า “ความจน” เป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์ทราบ การจะได้รับสวัสดิการนี้จึงประชาชนจำต้องมีคุณสมบัติในการรับสิทธิ์ ส่วนจะเป็นอะไรบ้างนั้น รายละเอียดรวบรวมไว้ให้ด้านล่าง

1. สัญชาติไทย
2. อายุ 18 ปีขึ้นไป
3. รายได้ต่อปีของบุคคลและรายได้เฉลี่ยของครอบครัวไม่เกิน 100,000 บาท ต่อคนต่อปี รวมถึงทรัพย์สินทางการเงิน อย่าง เงินฝาก สลาก พันธบัตร และตราสารหนี้ของภาครัฐ ต้องไม่เกิน 100,000 บาท ต่อคนต่อปีด้วยเช่นเดียวกัน
4. ไม่มีวงเงินกู้ หรือมีวงเงินกู้บ้าน ไม่เกิน 1.5 ล้านบาท และวงเงินกู้รถไม่เกิน 1 ล้านบาท
5. ไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ หรือมีกรรมสิทธิ์แต่ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข
6. กรณีไม่มีครอบครัว ห้องชุดต้องไม่เกิน 35 ตร.ม. และที่ดินที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตรไม่เกิน 1 ไร่ และใช้ในการเกษตร ไม่เกิน 10 ไร่ และมีบ้านพร้อมที่ดิน บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ตึกแถว ไม่เกิน 25 ตร.ว. และรวมกันหมดแล้วพื้นที่การเกษตรไม่เกิน 10 ไร่

ตอบทุกคำถาม! บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบนี้ ผู้ที่ยืนยันตัวตนเสร็จภายในวันที่ 1 – 26 มีนาคม 2566 จะเริ่มใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตามภาพรวมโครงการในครั้งนี้ยังเหมือนเดิม ทั้งรูปแบบและเงื่อนไขต่าง ๆ ไม่ต่างจากครั้งที่ผ่านมา แต่เพื่อความสบายใจของผู้มีสิทธิ์ทุกคน JobsDB ได้รวมเอาคำตอบของทุกคำถามยอดฮิตไว้ให้ด้านล่างแล้ว

ตรวจสอบสถานะ เช็กสิทธิลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566

ใครที่ยังไม่ได้ยืนยันตัวตนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566 ภายในวันที่ 26 มีนาคม 2566 ด้วยเหตุผลใดก็ตาม หากเป็นผู้มีสิทธิ์หรือกำลังรอการยื่นอุทธรณ์ตรวจสอบคุณสมบัติใหม่ ต้องยืนยันตัวตนให้เรียบร้อยก่อน ถึงสามารถใช้สิทธิได้ในภายหลัง ดังนี้

• ยืนยันตัวตน 1 มีนาคม – 26 มีนาคม 2566 เริ่มใช้สิทธิ 1 เมษายน 2566
• ยืนยันตัวตน 27 มีนาคม – 26 เมษายน 2566 เริ่มใช้สิทธิ 1 พฤษภาคม – รับสิทธิ์ย้อนหลัง 3 เดือน นับจากเดือนแรกที่มีสิทธิ์
• ยืนยันตัวตน 27 เมษายน – 26 พฤษภาคม 2566 เริ่มใช้สิทธิ 1 มิถุนายน 2566 – รับสิทธิ์ย้อนหลัง 3 เดือน นับจากเดือนแรกที่มีสิทธิ์
• ยืนยันตัวตน 27 พฤษภาคม – 26 มิถุนายน 2566 เริ่มใช้สิทธิ 1 กรกฎาคม 2566 – รับสิทธิ์ย้อนหลัง 3 เดือนนับจากเดือนแรกที่มีสิทธิ์
• ยืนยันตัวตน 27 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป เริ่มใช้สิทธิ 1 สิงหาคม 2566 – ไม่ได้รับสิทธิ์ย้อนหลัง ได้รับสิทธิเฉพาะที่กระทรวงการคลังระบุให้เท่านั้น

ขั้นตอนการตรวจสอบสถานะบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566

1. เข้าไปที่เว็บไซต์โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2566 บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th” หรือ “welfare.mof.go.th”
2. คลิก “ตรวจสอบสถานะการลงทะเบียน”
3. ระบุหมายเลขบัตรประชาชน และวันเดือนปีเกิด
4. คลิก “ตรวจสอบข้อมูล”
5. ระบบจะแสดงสถานะการลงทะเบียนของผู้ลงทะเบียน
6. หากคุณเป็นผู้ลงทะเบียนที่ผ่านการตรวจสอบสถานะ ระบบจะแสดง “สถานะการลงทะเบียนสมบูรณ์”
7. หากคุณเป็นผู้ลงทะเบียนที่ไม่ผ่านการตรวจสอบสถานะ “สถานการณ์ลงทะเบียนไม่สมบูรณ์” หรือพบข้อความว่า “การลงทะเบียนไม่สมบูรณ์”

ขั้นตอนยืนยันตัวตนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566

หากคุณเป็น “ผู้มีสถานะการลงทะเบียนสมบูรณ์” ให้นำบัตรประจำตัวประชาชนอเนกประสงค์ (Smart Card) ไปยืนยันตัวตนได้ที่ธนาคารทั้งสองแห่ง ดังต่อไปนี้

1. ธนาคารกรุงไทย (วันที่ 1 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป)
2. ธนาคารออมสิน / ธนาคาร ธ.ก.ส. (วันที่ 1 มีนาคม – 27 สิงหาคม 2566)

ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566 ไม่ผ่าน ทำอย่างไร?

หากตรวจสอบข้อมูลจนมั่นใจแล้วว่าไม่ได้กรอกอะไรผิดพลาด รวมถึงมีคุณสมบัติครบถ้วนจริง ๆ แนะนำให้นำบัตรประชาชนไปเช็กข้อมูลได้กับที่ว่าการอำเภอ/สำนักงานเขตดูอีกครั้ง ว่าข้อมูลที่ลงทะเบียนนั้น ถูกต้องตรงกับฐานข้อมูลของกรมการปกครองหรือไม่ ส่วนการแก้ไขข้อมูลนั้น สามารถขอแก้ไขข้อมูลได้ทุกหน่วยงานที่รับลงทะเบียนได้เลย

เมื่อหากแก้ไขข้อมูลแล้ว ให้ตรวจสอบสถานะลงทะเบียนอีกครั้งได้วันในศุกร์ของสัปดาห์ถัดไป ผ่านทางเว็บไซต์ “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th” หรือ “welfare.mof.go.th” รวมถึงหน่วยงานรับลงทะเบียนทุกแห่ง

ยื่นอุทธรณ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐอย่างไร?

กรณีที่ยื่นแก้ไขไปแล้วก็ยังไม่ได้รับสิทธิ์ สามารถยื่นอุทธรณ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม – 1 พฤษภาคม 2566 ผ่านทางเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th ได้ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ถึง 23.00 น. ของทุกวัน

1. กรอกหมายเลขประจำตัวประชาชนและวันเดือนปีเกิด จากนั้นระบบจะแสดงผลการพิจารณาคุณสมบัติ ให้ผู้ลงทะเบียนคลิกปุ่ม “ผลการตรวจสอบ”
2. กรอกรหัส Laser ID หลังบัตรประจำตัวประชาชน และคลิกปุ่ม “ยืนยันตัวตน”
3. ระบบจะแสดงรายละเอียดข้อมูลต่าง ๆ หากผู้ลงทะเบียนต้องการขออุทธรณ์ ให้ผู้ลงทะเบียนกรอกเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อได้ และคลิกปุ่ม “ยืนยันการอุทธรณ์”
4. ระบบจะขึ้นข้อความโปรดยืนยันการขออุทธรณ์ ให้ผู้ลงทะเบียน คลิกปุ่ม “ยืนยันการอุทธรณ์” อีกครั้ง
5. ระบบขึ้นข้อความ “สำเร็จ” ให้ผู้ลงทะเบียนคลิกปุ่ม “ตกลง”
6. ผู้ลงทะเบียนเลือกพิมพ์เอกสารการขออุทธรณ์ผลการพิจารณา คลิกปุ่ม “พิมพ์เอกสารยืนยันการอุทธรณ์” ยกเว้นในกรณีที่ผู้ลงทะเบียนไม่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติเกณฑ์หนี้สินผู้ลงทะเบียนจะต้องพิมพ์เอกสารเพื่อใช้ประกอบการขอแก้ไขข้อมูล

สำหรับใครที่ไม่สะดวกยื่นอุทธรณ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐผ่านทางเว็บไซต์ สามารถไปทำเรื่องได้ที่หน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สำนักงานคลังจังหวัดทุกจังหวัด ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร และศาลาว่าการเมืองพัทยา ตามวันและเวลาทำการของแต่ละหน่วยงาน

การอุทธรณ์ทั้งหมดนั้นต้องทำให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ 1 พฤษภาคม 2566 โดยจะประกาศผลรอบอุทธรณ์ในวันที่ 20 มิถุนายน 2566 และจะเริ่มใช้สิทธิสวัสดิการสำหรับผู้ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติรอบอุทธรณ์ 1 กรกฎาคม 2566

สิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566 ลดหย่อนอะไรได้บ้าง?

• สินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภค 200 – 300 บาท
• ค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 315 บาทต่อครอบครัว และค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาทต่อครอบครัว (ตามที่จ่ายจริง)
• ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ได้แก่ ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อเดือน ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อเดือน ค่าโดยสารรถ ขสมก./รถไฟฟ้า (MRT/BTS/ARL) 500 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่อาศัยอยู่ในเขต กทม. และปริมณฑล)
• ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 100 บาทต่อ 3 เดือน (ม.ค. – มี.ค. 66) กรณีกลุ่มเปราะบางจะได้ส่วนลด 100 บาท (ต่อรอบ 3 เดือน)
• ค่าไฟฟ้า ไม่เกิน 315 บาทต่อครอบครัว และค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาทต่อครอบครัว (ตามที่จ่ายจริง)
• เงินพิเศษผู้พิการ 200 บาท
• ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เป็นพ่อค้าแม่ค้า หาบเร่แผงลอย ร้านค้าขนาดเล็กจะได้ส่วนลดก๊าซหุงต้มพีที (ปตท.) 100 บาท ที่ร้านจำหน่ายที่ร่วมรายการ
• เงินพิเศษผู้สูงอายุ 50 ถึง 100 บาทขึ้นอยู่กับเกณฑ์รายได้

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 3000 เข้าวันไหน ปี 2566?

กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง จะโอนเงินให้ผู้ถือบัตรฯ ทั้งหมด 3 งวด เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.2566

• ทุกวันที่ 1 ของเดือน -ไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป
• ทุกวันที่ 18 ของเดือน – สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้
• ทุกวันที่ 22 ของเดือน – สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้

สอบถามข้อมูลลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2566 เพิ่มเติมได้ที่ไหน?

• กองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม กระทรวงการคลัง สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง โทร. 094-858-9794 จันทร์ – ศุกร์ 08.30 – 16.30 น. เว้นวันหยุดราชการ
• สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 02 273 9020 ต่อ 3502 3503 3506 3518 3536 3542 หรือ โทร. 08-5842-7102, 08-5842-7103, 08-5842-7104, 08-5842-7105, 08-5842-7106, 08-5842-7107, 08-5842-7108 จันทร์ – ศุกร์ 08.30 – 16.30 น. เว้นวันหยุดราชการ
• ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โทร. 0-2109-2345 จันทร์ – ศุกร์ 08.30 – 17.30 น. เว้นวันหยุดราชการ
• เว็บไซต์ บั ตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th ” หรือ “ welfare.mof.go.th ” หรือหน่วยงานรับลงทะเบียนทุกแห่ง

ติดตามทุกข่าวสาร ไม่พลาดทุกการอัปเดตได้แล้ววันนี้ที่ JobsDB แพลตฟอร์มหางานอันดับหนึ่งในไทย หาคนตรงงาน หางานตรงใจ รับรองว่าไม่พลาดทุกเทรนด์ความเคลื่อนไหว

ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทั้ง iOS และ Android

เลือกงานที่ใช่ ใช้ชีวิตที่ชอบ ด้วยการค้นหางานที่ง่ายและรวดเร็ว พร้อมทั้งจัดการเรซูเม่อย่างมีประสิทธิภาพ ให้คุณอัปโหลด ดู และลบได้ทุกเมื่อที่ต้องการ เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การใช้งานแสนง่าย ด้วยระบบ AI ใหม่ ช่วยค้นหางานที่ตรงใจมากขึ้นถึง 6 เท่า​

https://th.jobsdb.com/th-th/articles/%e0%b8%aa%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%aa%e0%b8%94%e0%b8%b4%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%9e%e0%b8%99%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b8%87%e0%b8%b2%e0%b8%99/

https://th.jobsdb.com/th-th/articles/%e0%b8%aa%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%aa%e0%b8%94%e0%b8%b4%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%9e%e0%b8%99%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b8%87%e0%b8%b2%e0%b8%99-2/

https://th.jobsdb.com/th-th/articles/%e0%b8%aa%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%aa%e0%b8%94%e0%b8%b4%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%81%e0%b8%a3%e0%b8%87%e0%b8%87%e0%b8%b2%e0%b8%99/