สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เรามาพบกับบทความอาหารอร่อย ๆ กันอีกเช่นเคยค่ะ ในครั้งที่แล้วเราได้แนะนำบทความ เมนูจากผักกาดขาว, เมนูปลานิล, เมนูจากกิมจิ และ เมนูจากเครื่องใน กันไปแล้วแล้ว ไหนใครที่ลองไปทำตามกันแล้วบ้างคะ ยกมือให้ดูหน่อย อร่อยตามที่บอกไว้เลยใช่มั้ยล่ะคะ (อิอิ)

ในวันนี้นั้นเราจะพาทุกคนมาดูเมนูจากผลไม้สุดฮิตอีกตัวหนึ่ง หลายคนก็บชอบทาน และก็มีหลายคนที่บอกว่าไม่อร่อย อย่าเพิ่งรีบตัดสินค่ะ เพราะถ้านำมาประกอบอาหารตามสูตรที่ให้ในวันนี้ บอกเลยว่าอร่อยทุกเมนูแน่นอน จะเป็นอะไรไปไม่ได้ “เมนูจากมะเขือเทศ” นั่นเองค่ะ

บ้างก็ว่ามะเขือเทศเป็นผัก บ้างก็ว่าเป็นผลไม้ จริง ๆ แล้ว มะเขือเทศถือเป็นผลไม้ชนิดหนึ่ง ซึ่งในเชิงพฤกษาศาสตร์เนี่ยได้จัดให้มะเขือเทศอยู่ในตระกูลเดียวกับเบอร์รี่ แต่เพราะหลาย ๆ เมนูของมะเขือเทศอยู่คู่กับผักซะส่วนใหญ่ หลายคนจึงคิดว่ามะเขือเทศเป็นผักนั่นเองค่ะ มะเขือเทศนั้นเป็นผลไม้ยอดนิยมของโลกเลยก็ว่าได้ เมนูยอดฮิตก็คงจะเป็น น้ำมะเขือเทศ, ซอสมะเขือเทศ และแฮมเบอร์เกอร์ ยังเอาไปทำเมนูไหนได้อีกนั้น ตามมาชมกันเลยค่ะ

ทำความรู้จักกับสายพันธุ์มะเขือเทศยอดนิยมในประเทศไทย

1. มะเขือเทศท้อแดง (Plum Tomato)

มะเขือเทศลูกใหญ่ ๆ ที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันนี้ คือมะเขือเทศท้อแดง เป็นมะเขือเทศที่มีขนาดกลาง ลักษณะทรงไข่ เนื้อเยอะ น้ำเยอะ เนื้อนิ่ม เมื่อผลสุกจะมีสีแดงจัด เมล็ดจะน้อยกว่า นิยมนำมาทำอาหารประเภทต้มยำ, สลัด, ผัดไข่ และพวกซอสสปาเก็ตตี้ต่าง ๆ บอกเลยว่าอร่อยมาก ๆ มะเขือเทศท้อมีหลายหลายสายพันธุ์เช่น italian roma และ san marzano เป็นต้น

2. มะเขือเทศสีดา (Seeda Tomato)

มะเขือเทศสีดา เป็นมะเขือเทศของไทย สามารถปลูกได้ทั่วทุกภาคของประเทศ ต้นจะมีผลดก จุดเด่นของสายพันธุ์นี้คือจะมีสีชมพูเมื่อสุก ลูกขนาดกลางค่อนเล็ก กลิ่นไม่แรง รสชาติจืดและเปรี้ยว ทำให้มะเขือเทศสีดาไม่ค่อยนิยมนำมาทำอาหารที่หลากหลายมากนัก จึงนิยมนำไปใส่ในเมนูส้มตำ เพื่อเพิ่มรสชาติให้จัดจ้านขึ้นนั่นเองค่ะ

3. มะเขือเทศราชินี (Cherry Tomato)

มะเขือเทศราชินี เป็นมะเขือเทศที่คนไทยนิยมทานกันมาก ๆ ค่ะ จุดเด่นคือลูกของมันจะมีขนาดเล็กประมาณเท่าหัวแม่โป้ง รสหวานอมเปรี้ยว เนื้อแน่น กรอบ และมีกลิ่นหอม แถมยังมีสารเบต้าแคโรทีนที่เยอะมาก ๆ ด้วยกลิ่นที่ไม่แรงคนจึงนิยมนำมาทานกันสด ๆ เป็นอาหารว่าง หรือไม่ก็จะนำไปทำอาหารพวกบาร์บิคิว, มะเขือเทศอบแห้ง, น้ำมะเขือเทศปั่น เป็นต้น

สูตรอาหารจากมะเขือเทศ

1. สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศ

สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศ เมนูสุดอร่อยจากประเทศอิตาลี บอกเลยว่าเมนูนี้เป็นเมนูที่เด็ก ๆ หลายคนชอบทานกันมาก ๆ ด้วยรสชาติที่อร่อย ตัวซอสเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ ผสมผสานกับ Texture ของหมูสับและมะเขือเทศแบบเน้น ๆ ส่วนวิธีการทำก็ไม่ได้มีอะไรยุ่งยากเลยค่ะ ถึงแม้วัตถุดิบจะเยอะสักหน่อย แต่แค่นำทุกอย่างมาผัดรวมกัน ปรุงรสตามชอบ ราดลงบนเส้นสปาเก็ตตี้เหนียวนุ่ม รับรองว่าฟินมาก ๆ ค่ะ

วัตถุดิบสปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศ

• เส้นสปาเก็ตตี้
• หมูสับ
• มะเขือเทศท้อแดง
• ซอสมะเขือเทศ
• หอมใหญ่
• เนยจืด
• เกลือป่น
• น้ำตาลทราย
• พริกไทยป่น
• ออริกาโน
• น้ำมันพืช

วิธีทำสปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศ

• มาเตรียมในส่วนของวัตถุดิบกันก่อนค่ะ ขั้นแรกนำมะเขือเทศและหอมใหญ่มาล้างทำความสะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ พักไว้
• ตั้งหม้อต้มน้ำให้เดือด แล้วใส่เส้นสปาเก็ตตี้ลงไป คนให้เส้นจมน้ำหมดทุกเส้น หรี่ไฟอ่อนพร้อมปิดฝา ต้มประมาณ 20 นาที จากนั้นนำมาแช่น้ำเย็นสักครู่ สะเด็ดน้ำออก นำไปคลุกกับน้ำมันพืช พักไว้
• ตั้งกระทะ ใส่เนยจืดลงไป นำหอมใหญ่สับลงไปผัดจนสุก จากนั้นตามด้วยหมูสับ ผัดจนเนื้อหมูสุกดี ก็ใส่มะเขือเทศหั่นชิ้น และซอสมะเขือเทศลงไปผัดจนเข้ากัน
• เมื่อผัดส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี และได้ความนิ่มของมะเขือเทศที่ต้องการแล้ว ปรุงรสด้วยเกลือป่น, น้ำตาลทราย และพริกไทยป่น ชิมรสชาติตามชอบ ให้ออกเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ เค็มเล็กน้อย
• เมื่อเคี่ยวซอสจนได้ที่ ตักขึ้นใส่จานสปาเก็ตตี้ที่เตรียมไว้ โรยหน้าด้วยออริกาโนเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความหอม พร้อมเสิร์ฟค่ะ

2. น้ำพริกอ่องหมูสับ

ถ้าพูดถึงเมนูจากมะเขือเทศ น้ำพริกอ่องถือว่าเป็นตัวชูวัตถุดิบได้ดีที่สุดเลยค่ะ เพราะหากขาดมะเขือเทศก็คงทำเมนูนี้ไม่ได้แน่ ๆ น้ำพริกอ่องนั้นเป็นเมนูขึ้นชื่อของทางภาคเหนือ นิยมทานคู่กับแคบหมูและผักสดต่าง ๆ ส่วนผสมจะมีสองส่วนคือส่วนของพริกแกง และส่วนของเครื่องปรุงรส หากอยากได้รสชาติแบบออริจินัลให้ใส่ถั่วเน่าลงไปในพริกแกงด้วยค่ะ ใครที่ไม่มีก็ไม่เป็นไร วิธีทำก็ง่าย ๆ คือเราจะเอามะเขือเทศ, หมูสับ มาผัดกับพริกแกงจนหอม ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลทราย รสชาติจะหอม เปรี้ยวอมหวาน อร่อยไปอีกแบบค่ะ

วัตถุดิบน้ำพริกอ่องหมูสับ

• มะเขือเทศราชินี
• หมูสับ
• กระเทียมสับ
• ต้นหอมซอย
• ผักชี
• เกลือ
• น้ำปลา
• น้ำตาลทราย
• น้ำมันพืช

วัตถุดิบพริกแกง

• เกลือ
• กระเทียม
• พริกแห้งเม็ดเล็ก
• พริกแห้งเม็ดใหญ่
• หอมแดง
• กะปิ
• ถั่วเน่าแข็บ

วิธีทำน้ำพริกอ่องหมูสับ

• มาเตรียมในส่วนของพริกแกงกันก่อนค่ะ โขลกกระเทียม, พริกแห้ง, หอมแดง, กะปิ และถั่วเน่าแข็บให้ได้เนื้อที่ละเอียดปานกลาง ใส่เกลือลงไปเล็กน้อยเพื่อเพิ่มรสชาติ
• ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืชลงไป นำกระเทียมสับลงไปเจียว จากนั้นนำพริกแกงที่โขลกไว้ลงไปผัดจนหอม แล้วตามด้วยหมูสับ หากน้ำแห้งเกินไปสามารถเติมน้ำได้เล็กน้อยค่ะ
• เมื่อหมูสับใกล้สุก ใส่มะเขือเทศลงไป ผัดจนมะเขือเทศสุกเละ แล้วจึงปรุงรสด้วยเกลือ, น้ำปลา และตัดเปรี้ยวด้วยน้ำตาลทรายเล็กน้อย
• ผัดต่อจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี ตักขึ้นใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยต้นหอมซอยและผักชี ทานคู่กับผักสดหรือแค็บหมู อร่อยมากค่ะ

3. ซุปมะเขือเทศ

ซุปมะเขือเทศ เป็นซุปผักสไตล์อิตาเลี่ยน ปกติจะมี 2 สูตร คือ สูตรเย็นและสูตรร้อน วันนี้เราจะมาทำสูตรร้อนกันค่ะ รสชาติซุปจะออกเปรี้ยวอมหวาน ทานเป็นอาหารเช้าคู่กับขนมปังกรอบก็เข้ากันได้ดีมาก ๆ เคล็ดลับเพิ่มความอร่อยอยู่ตรงที่จะต้องใช้มะเขือเทศที่สุกจัด จะได้รสชาติที่กลมกล่อมกำลังพอดี และเพิ่มความนุ่มละมุนด้วยครีมสด จะยิ่งเพิ่มความวามครีมมี่ไปอีกขั้น อร่อย ประโยชน์เยอะ ต้องลองค่ะ

วัตถุดิบซุปมะเขือเทศ

• มะเขือเทศท้อแดง
• กระเทียมสับ
• หอมใหญ่สับ
• เนยสด
• วิปปิ้งครีมสด
• น้ำมันมะกอก
• น้ำตาลทราย
• พริกป่น
• ออริกาโน
• เกลือป่น
• พริกไทยป่น
• น้ำเปล่า

วิธีทำซุปมะเขือเทศ

• นำมะเขือเทศมาหั่นตรงปลายเป็นรูปบวก จากนั้นนำไปต้มจนสุกนิ่ม ตักขึ้นมาลอกเปลือกตามรอยที่ผ่าไว้ นำไปปั่นจนได้เนื้อที่เนียนละเอียด
• ตั้งกระทะ ไฟกลาง ใส่น้ำมันมะกอกลงไป ตามด้วยเนย, กระเทียมสับ, และหอมใหญ่สับ ผัดทุกอย่างให้เข้ากันจนหอมใหญ่สุกใส
• เทมะเขือเทศปั่น, วิปปิ้งครีมสด และน้ำเปล่าลงไป ต้มจนเดือด จากนั้นหรี่ไฟกลาง แล้วปรุงรสด้วยพริกป่น, น้ำตาลทราย, ออริกาโน, เกลือป่น และพริกไทยป่น เคี่ยวต่อไปเรื่อย ๆ จนได้เนื้อสัมผัสที่ต้องการ
• ตักขึ้นใส่ถ้วย รับประทานคู่กับขนมปังกรอบ อร่อยมากค่ะ

4. ผัดเปรี้ยวหวานกุ้ง

ผัดเปรี้ยวหวานกุ้ง เมนูสุดโปรดของหลาย ๆ คน จุดเด่นของเมนูนี้คือกุ้งตัวโต ๆ เด้ง ๆ ผัดกับน้ำซอสรสชาติเข้มข้น รสชาติเปรี้ยวอมหวาน ขาดไม่ได้เลยคือมะเขือเทศนี่แหละค่ะ ที่จะทำให้เมนูนี้สมบูรณ์แบบมากขึ้น นอกจากความเปรี้ยวของมะเขือเทศ ยังได้ความเปรี้ยวของสับปะรดมาเพิ่มความกลมกล่อมด้วยค่ะ ผัดทุกอย่างจนได้น้ำซอสแบบขลุกขลิก รับรองว่าอร่อยเหาะแน่นอน

วัตถุดิบผัดเปรี้ยวหวานกุ้ง

• กุ้งสดปอกเปลือก
• มะเขือเทศท้อแดง
• สับปะรดหั่นชิ้น
• แตงกวาหั่นชิ้น
• หอมใหญ่
• พริกหวานสามสี
• ต้นหอมหั่นท่อน
• กระเทียมสับ
• ซอสมะเขือเทศ
• น้ำตาลทราย
• น้ำปลา
• น้ำเปล่า
• น้ำมันพืช (สำหรับผัด)

วิธีทำผัดเปรี้ยวหวานกุ้ง

• เตรียมกุ้งสด ล้าง ผ่าหลัง ปอกเปลือกให้เรียบร้อย พักไว้
• หั่นมะเขือเทศ, สับปะรด, แตงกวา, หอมใหญ่, พริกหวานสามสี และต้นหอม ให้เป็นชิ้นตามต้องการ พักไว้
• ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืชลงไป เมื่อน้ำมันร้อน นำกระเทียมสับลงไปเจียวจนหอม ตามด้วยใส่กุ้งลงไปผัดให้พอสุก ตามด้วยใส่หอมใหญ่ลงไป ผัดจนเข้ากัน
• จากนั้นใส่มะเขือเทศ, แตงกวา, และพริกหวานที่หั่นไว้ลงไป ผัดจนทุกอย่างเข้ากันดี แล้วปรุงรสด้วยซอสมะเขือเทศ, น้ำตาลทราย และน้ำปลา ชิมรสให้ออกเปรี้ยวหวานเค็ม สามรส
• เติมสับปะรดลงไป ผัดจนเข้ากัน หากของใครที่น้ำซอสแห้งไป สามารถเติมน้ำเปล่าลงไปเล็กน้อยได้ค่ะ ผัดต่อจนได้ที่ ตักขึ้นใส่จาน พร้อมเสิร์ฟได้เลยค่ะ

5. มะเขือเทศเชื่อมอบแห้ง

มาต่อกันที่เมนูทานเล่นกันบ้างค่ะ สำหรับมะเขือเทศเชื่อมอบแห้ง สูตรนี้เราจะใช้มะเขือเทศราชินีในการอบ เพราะมะเขือเทศตัวนี้เนื้อแน่น รสชาติอมเปรี้ยว อมหวาน อบออกมาแล้วเนื้อจะไม่เละ โดยเราจะนำมะเขือเทศมาเชื่อมในน้ำเชื่อมก่อน เพื่อให้ตัวน้ำเชื่อมรัดผิวของมะเขือเทศให้แวววาว สวยงาม เหมาะแก่การทานเป็นอาหารว่างมาก ๆ ประโยชน์เยอะ แถมยังอร่อยอีกด้วย

วัตถุดิบมะเขือเทศเชื่อมอบแห้ง

• มะเขือเทศราชินี
• น้ำตาลทราย
• น้ำมะนาว
• น้ำปูนใส

วิธีทำมะเขือเทศเชื่อมอบแห้ง

• นำมะเขือเทศราชินีมาแช่ในน้ำปูนใส (ปูนแดงผสมน้ำ รอจนปูนแดงตกตะกอน จะได้น้ำปูนใสลอยอยู่ข้างบน) เวลานำมาเชื่อมจะได้ไม่เละ จากนั้นนำขึ้นมาล้างให้สะอาด พักไว้
• นำมีดมาหั่นมะเขือเทศเป็น 4 แฉก แล้วใช้มือกดเบา ๆ เพื่อเอาเมล็ดข้างในออก ทำแบบนี้จนครบทุกลูก
• นำมะเขือเทศที่นำเมล็ดออกแล้ว ไปแช่ในน้ำปูนใสต่ออีกประมาณ 30 – 45 นาที จากนั้นบีบน้ำปูนใสออกจากตัวมะเขือเทศจนหมด พักไว้
• ตั้งกระทะ ไฟกลางค่อนอ่อน ใส่มะเขือเทศ ตามด้วยน้ำตาล เคี่ยวจนน้ำตาลละลายดี รอจนน้ำตาลเดือด ขั้นตอนนี้ไม่ต้องคนนะคะ เพราะจะทำให้มะเขือเทศเละได้ ให้ใช้แค่ไม้พายกด ๆ มะเขือเทศให้จมในน้ำเชื่อมก็พอค่ะ
• เมื่อน้ำเชื่อมงวดดีแล้ว ปิดแก๊ส บีบมะนาวลงไปเล็กน้อย เพื่อให้มะเขือเทศมีสีแดงสวย ไม่คล้ำ ตักมะเขือเทศวางลงบนตะแกรง นำไปตาดแดดจัดประมาณ 2 วัน เมื่อครบเวลาเก็บใส่ขวดโหล เก็บไว้ทานได้นานเลยค่ะ

6. มะเขือเทศอบชีสทรงเครื่อง

มาต่อกันด้วยเมนูอร่อย ๆ อีกหนึ่งเมนูค่ะ สำหรับมะเขือเทศอบชีส แต่วันนี้เราไม่ได้อบชีสแบบปกติค่ะ เราจะคว้านไส้มะเขือเทศ แล้วใส่หมูสับทรงเครื่องลงไปด้วย เพื่อเพิ่มความหอมอร่อย และตัดความเลี่ยน ปิดท้ายด้วยการโรยมอสซาเรลล่าชีสเยิ้ม ๆ ลงไป จากนั้นนำไปอบจนส่วนผสมเข้ากันดี บอกเลยว่าหมูสับนุ่ม ๆ เข้ากันได้ดีกับมะเขือเทศฉ่ำ ๆ มาก ๆ ค่ะ

วัตถุดิบมะเขือเทศอบชีสทรงเครื่อง

• มะเขือเทศท้อแดง
• หมูสับ
• มอสซาเรลล่าชีส
• ซอสหอยนางรม
• น้ำปลา
• พริกไทยป่น
• กระเทียมสับ
• หอมใหญ่สับ
• ซอสมะเขือเทศ
• ออริกาโน
• ต้นหอมซอย
• น้ำมันพืช

วิธีทำมะเขือเทศอบชีสทรงเครื่อง

• หั่นมะเขือเทศด้านขั้วออก (สำหรับทำเป็นฝา) จากนั้นคว้านเนื้อข้างในจนกลวงสำหรับใส่ไส้ แล้วหั่นเนื้อมะเขือเทศที่คว้านออกมาเป็นชิ้น ๆ พักไว้
• นำหมูสับมาหมักด้วยซอสหอยนางรม, น้ำปลา, พริกไทยป่น และกระเทียมสับ หมักไว้ประมาณ 30 นาทีจนเข้าเนื้อ
• ตั้งกระทะ นำหมูสับมาผัดกับหอมใหญ่ และมะเขือเทศหั่นชิ้น จนหมูสุกดี โรยด้วยต้นหอมซอยเล็กน้อย พักไว้
• ทาน้ำมันพืชลงบนถาดอบ และผลมะเขือเทศจนทั่ว ตักหมูสับใส่ลงไปในมะเขือเทศจนเต็ม บีบซอสมะเขือเทศลงไปเล็กน้อย ตามด้วยโรยมอสซาเรลล่าชีสลงไป
• นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 150 องศา ประมาณ 15 นาที เวลาจัดเสิร์ฟ โรยด้วยต้นหอมซอยและออริกาโนตามชอบ เป็นอันเสร็จค่ะ

7. น้ำมะเขือเทศสมูทตี้

ดูเมนูของคาวกันไปเยอะแล้ว มาต่อกันที่น้ำผลไม้เพื่อสุขภาพกันบ้างค่ะ ตัวนี้จะเป็นน้ำมะเขือเทศปั่นสมูทตี้ รสชาติเปรี้ยวหวานกำลังดี เพิ่มความละมุนด้วยโยเกิร์ตรสธรรมชาติหอม ๆ เมื่อนำมาปั่นรวมกันแล้วรสชาติเข้ากันได้ดีมาก ๆ ค่ะ แถมเมนูนี้ยังมีประโยชน์เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น ช่วยลดคอเรสเตอรอล, ช่วยล้างสารพิษในร่างกาย รวมไปถึงในน้ำมะเขือเทศยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วยค่ะ

วัตถุดิบน้ำมะเขือเทศสมูทตี้

• มะเขือเทศราชินี
• นมข้นหวาน
• โยเกิร์ตรสธรรมชาติ
• น้ำมะนาว
• น้ำแข็ง

วิธีทำน้ำมะเขือเทศสมูทตี้

• นำมะเขือเทศ, นมข้นหวาน, โยเกิร์ต, น้ำมะนาว และน้ำแข็ง ใส่ลงในเครื่องปั่น ปั่นส่วนผสมทุกอย่างจนเป็นเนื้อเดียวกัน ชิมรสตามชอบ
• นำโยเกิร์ตใส่ลงในแก้ว เพื่อแบ่งเลเยอร์ให้ดูสวยงาม เทสมูทตี้ลงไป พร้อมเสิร์ฟค่ะ

8. มะเขือเทศผัดไข่

มะเขือเทศผัดไข่ เมนูสุดอร่อยจากประเทศจีน ที่ไม่ว่าไปร้านอาหารจีนกี่ครั้งก็ต้องสั่งเมนูนี้มาทานกันค่ะ เมนูนี้ดูเหมือนจะทำง่าย แต่หาที่อร่อยจริง ๆ ได้ยากมาก แต่วันนี้เราเอาเคล็ดลับความอร่อยมาบอกต่อ รับรองว่าอร่อยไม่แพ้ไปทานที่ร้านเลยค่ะ ซึ่งการจะทำมะเขือเทศผัดไข่ให้ได้รสชาติที่ดีนั้นต้องผัดให้ไข่สุกนุ่มกำลังดี ไม่แห้งจนเกินไป มะเขือเทศก็ต้องไม่เละมาก เครื่องปรุงมีแค่เกลือป่นก็เพียงพอ เพราะความหวานและเปรี้ยวจะได้มาจากตัวมะเขือเทศอยู่แล้ว ปิดท้ายด้วยการโรยต้นหอมซอยเพื่อเพิ่มความหอม แค่คิดก็น้ำลายไหลแล้วค่ะ

วัตถุดิบมะเขือเทศผัดไข่

• มะเขือเทศท้อแดง
• ไข่ไก่
• เกลือป่น
• ต้นหอมซอย
• น้ำมันงา
• น้ำมันหมู

วิธีทำมะเขือเทศผัดไข่

• ตอกไข่ไก่ใส่ชาม ตีให้เข้ากัน เติมเกลือเล็กน้อยเพื่อเพิ่มรสชาติ
• ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันหมูลงไป เมื่อกระทะเริ่มร้อน นำไข่ลงไปยีให้เป็นก้อนจนคล้ายกับไข่คน ไม่ต้องให้สุกมาก จากนั้นตักขึ้นพักไว้
• ใช้กระทะใบเดิม เติมน้ำมันหมูเล็กน้อย นำมะเขือเทศและต้นหอมซอยลงไปผัดจนหอม เติมน้ำเปล่าเล็กน้อยเพื่อให้มะเขือเทศนิ่มขึ้น ผัดจนกว่าจะได้ระดับความนิ่มที่ต้องการ
• นำไข่ที่ผัดไว้ลงไปผัดให้เข้ากับตัวมะเขือเทศอีกครั้ง โรยเกลือป่นเล็กน้อย ปิดแก๊ส ตักขึ้นใส่จาน โรยหน้าด้วยต้นหอมซอยอีกรอบ และเหยาะน้ำมันงาลงไปเพื่อเพิ่มความหอม ก็เป็นอันเสร็จค่ะ

9. ข้าวผัดรถไฟ

ข้าวผัดรถไฟ เป็นหนึ่งในเมนูที่ผู้เขียนชอบทานมาก ๆ ข้าวผัดรถไฟนั้นเป็นข้าวผัดโบราณ ในสมัยก่อนจะมีขายเฉพาะบนรถไฟ ก็เลยเรียกกันว่าข้าวผัดรถไฟนั่นเองค่ะ จุดเด่นของข้าวผัดรถไฟคือกลิ่นหอมของซีอิ๊วดำ และจะใช้ผัก 3 ชนิด คือ มะเขือเทศ, คะน้า และหอมใหญ่ บอกเลยว่าใครที่ได้ลองชิม จะติดใจจนลืมข้าวผัดแบบธรรมดาเลยค่ะ

วัตถุดิบข้าวผัดรถไฟ

• ข้าวสวยแช่เย็น
• หมูสามชั้น
• ไข่ไก่
• มะเขือเทศท้อแดง
• ผักคะน้า
• ต้นหอมหั่นท่อน
• หอมใหญ่
• กระเทียมสับ
• น้ำปลา
• น้ำตาลทราย
• ซอสหอยนางรม
• ซีอิ๊วดำ
• พริกไทยป่น

วิธีทำข้าวผัดรถไฟ

• ขั้นแรก เรามาเตรียมผักและเนื้อสัตว์กันก่อนค่ะ หั่นมะเขือเทศ, คะน้า, หอมใหญ่ และต้นหอม ตั้งไว้ ล้างหมูสามชั้นให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ และเราจะเลือกใช้ข้าวสวยแช่เย็นค้างคืนนะคะ เพราะจะทำให้ผัดออกมาแล้วข้าวเรียงเมล็ดสวย ไม่แฉะ
• ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน พอร้อน น้ำกระเทียมลงไปเจียวจนหอม ตอกไข่ลงไปยีให้พอสุก นำข้าวลงไปผัดกับไข่จนเข้ากันดี จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำปลา, น้ำตาลทราย, ซอสหอยนางรม และเหยาะซีอิ๊วดำลงไปเล็กน้อย เพื่อเพิ่มสีสันให้ดูน่าทาน
• เมื่อผัดส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดีแล้ว ใส่มะเขือเทศ, คะน้า และหอมใหญ่ที่เตรียมไว้ลงไป
• เมื่อผักสุกดี โรยต้นหอมหั่นท่อนลงไป ผัดต่ออีกสองสามครั้ง ปิดแก๊ส ตักเสิร์ฟใส่จาน โรยด้วยพริกไทยป่น รับประทานคู่กับพริกน้ำปลา อร่อยมาก ๆ ค่ะ

10. ตำมะเขือเทศ

หลายคนอาจจะคุ้นชินกับตำข้าวโพดหรือตำไข่เค็ม แต่บอกเลยว่า ‘ตำมะเขือเทศ’ ก็อร่อยเช่นกันค่ะ เมนูนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบทานมะเขือเทศโดยเฉพาะ เพราะวัตถุดิบหลักคือมะเขือเทศเน้น ๆ ที่นำมาปรุงกับน้ำยำรสชาติเข้มข้น เพิ่มความกรอบด้วยปลากรอบ, กุ้งแห้ง และถั่วลิสง แบบจัดเต็ม รสชาติแซ่บเวอร์ ไม่ว่าใครทำก็อร่อย ใครได้กินก็ติดใจค่ะ

วัตถุดิบตำมะเขือเทศ

• มะเขือเทศราชินี
• ถั่วฝักยาว
• ปลากรอบ
• กุ้งแห้ง
• ถั่วลิสงคั่ว
• น้ำปลา
• น้ำตาลปี๊บ
• น้ำมะนาว
• พริกขี้หนู

วิธีทำตำมะเขือเทศ

• ใส่มะเขือเทศและถั่วฝักยาวลงในครก ตำให้พอแหลก ปรุงรสด้วยน้ำปลา, น้ำตาลปี๊บ, น้ำมะนาว, พริกขี้หนู ชิมรสชาติตามชอบ
• ตักขึ้นใส่จาน โรยหน้าด้วยปลากรอบ, ถั่วลิสงคั่ว, และกุ้งแห้ง ก็เป็นอันเสร็จค่ะ

คุณประโยชน์ของมะเขือเทศ

• ในมะเขือเทศมีวิตามิน A ที่ช่วยบำรุงสายตา และช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย
• สารไลโคปีในมะเขือเทศช่วยเร่งสลายไขมันเลว (LDL) ในร่างกาย
• ช่วยลดระดับไขมันในเส้นเลือด
• วิตามินในมะเขือเทศช่วยบำรุงผิวพรรณให้สดใส ชุ่มชื่น ไม่แห้งกร้าน
• สารเบต้า – แคโรทีน ช่วยลดความเสื่อมของเซล์ในลูกตา แถมยังช่วยป้องกันผิวจากรังสีอัลตร้าไวโอเลตได้ดีอีกด้วย
• ช่วยลดความเสี่ยงจากภาวะเส้นเลือดตีบ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหัวใจ
• ในมะเขือเทศมีสารต้านอนุมูลอิสระที่สูงมาก ซึ่งสารเหล่านี้จะช่วยลดและชะลอการเกิดริ้วรอยได้ดี
• หากรับประทานมะเขือเทศเป็นประจำ จะช่วยลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็งต่อมลูกหมากในเพศชายได้ถึง 45%

เป็นอย่างไรกันบ้างคะทุกคน สำหรับเมนูจากมะเขือเทศทั้ง 10 เมนูที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ บอกเลยว่าบางเมนูเนี่ยก็ไม่คิดเลยว่าจะนำมะเขือเทศมาทำได้แถมยังอร่อยอีกต่างหาก ใครที่ชอบทานมะเขือเทศ จะได้มีเมนูใหม่ ๆ ไว้ทำกินแก้เบื่อกันค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นถึงแม้มะเขือเทศจะอร่อยและมีประโยชน์ที่เยอะมาก ๆ แต่ก็ไม่ควรรับประทานจนเกินพอดีนะคะ เพราะในมะเขือเทศมีกรดอยู่ค่อนข้างเยอะ หากทานมากเกินไปอาจทำให้เกิดกรดใหลย้อนเนื่องจากกรดเกินในกระเพาะอาหารได้ค่ะ