ฮัลโหลววว บทความแนะนำอาหารอร่อย ๆ กลับมาแล้วน้าาา มีใครคิดถึงบทความนี้กันบ้างเอ่ยย? ก่อนหน้านี้เราแนะนำเมนูจากหน่อไม้ดองไปแล้ว บทความนี้เราเลยหยิบเอาเมนูจากหน่อไม้สดมาแชร์เพื่อน ๆ บ้างดีกว่า เพราะเอาจริง ๆ แล้วเมนูจากหน่อไม้สดนี่ก็มีให้เลือกทานเยอะไม่แพ้เมนูอื่นเลยค่ะ ยิ่งเป็นอาหารอีสานนี่บอกเลยว่าเราสามารถใส่หน่อไม้ได้แทบจะทุกเมนูเลยค่ะ แต่ไม่ใช่แค่อาหารอีสานนะคะ ไม่ว่าจะเป็นอาหารเหนือ, อาหารกลาง หรือภาคใต้ก็มีเมนูหน่อไม้สดอร่อย ๆ ให้ทานเช่นเดียวกัน รีบเลื่อนลงไปดูเมนูที่เรานำมาฝากเลยดีกว่า~
เทคนิคต้มหน่อไม้สดไม่ให้มีรสเผื่อนขม
หน่อไม้สดเป็นพืชที่ไม่สามารถทานดิบได้ค่ะ ก่อนนำมาปรุงอาหารจะต้องผ่านการนำไปปรุงสุกเสียก่อน โดยวิธีการแรกเราจะต้องแกะเอาเปลือกและตัดส่วนที่แก่จนแข็งออกให้หมด จากนั้นต้มน้ำผสมเกลือจนเดือดจัดแล้วนำหน่อไม้ลงต้ม ปิดฝาต้มไฟอ่อนประมาณ 20 นาทีหรือจนกว่าน้ำต้มจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ซึ่งน้ำที่ออกมาก็คือความเฝื่อนขมที่อยู่ในเนื้อหน่อไม้นั่นเองค่ะ จากนั้นตักหน่อไม้ออกมาล้างให้สะอาดอีกครั้งก็สามารถนำไปใช้งานได้แล้วค่ะ สามารถนำไปต้มซ้ำได้ตามต้องการหากหน่อไม้ยังมีรสขมอยู่ ส่วนใครที่ยังไม่ทานเลยก็สามารถใส่ถุงหรือใส่กล่องแช่เย็นไว้ก่อนได้ค่ะ
ต่อไปเรามาดู 8 เมนูหน่อไม้สด กันค่ะ
1. หน่อไม้ต้มกะทิ

เริ่มต้นกันด้วยหน่อไม้ต้มกะทิ เมนูในดวงใจของเราเองค่ะ อิอิ 😋 สูตรที่เราแนะนำจะเป็นสูตรของทางใต้ที่มีการใส่สะตอสดลงไปด้วย ตัวน้ำแกงจะเข้มข้น กะทิไม่แตกมัน น้ำแกงจะมีรสชาติเค็มจากกะปิและมีความมันของกะทิ ความหวานจาง ๆ ช่วยให้รสทั้งหมดกลมกล่อมมากขึ้น ตัวกุ้งแห้งเนื้อจะสุกนุ่มกำลังดี เข้ากันกับหน่อไม้กรอบ ๆ อมหวานนิดหน่อย ส่วนสะตอและชะอมจะต้องสุกกรอบกำลังดี ไม่ได้เหี่ยวจนเกินไปค่ะ เมนูนี้บอกเลยว่าทานคู่กับน้ำพริกกะปิและปลาทอดคือเข้ากันสุด ๆ
วัตถุดิบหน่อไม้ต้มกะทิ
- กุ้งแห้ง
- หน่อไม้ไผ่ตง
- สะตอสด
- ชะอมสด
- ตะไคร้
- หอมแดง
- กะปิ
- เกลือ
- น้ำตาล
- หัวกะทิ
- หางกะทิ
วิธีทำหน่อไม้ต้มกะทิ
- ขั้นตอนที่ 1 : ผสมหางกะทิกับกะปิและเกลือให้เข้ากัน จากนั้นนำขึ้นตั้งไฟกลางค่อนอ่อนพร้อมกับหอมแดงและตะไคร้บุบ คอยคนเป็นระยะและรอจนกะทิเริ่มเดือดขอบหม้อ ระวังไม่ให้กะทิเดือดจนแตกมันนะคะ ระหว่างนั้นเราจะนำกุ้งแห้งมาแช่น้ำรอไว้ สำหรับกุ้งแห้งแนะนำให้ใช้เป็นกุ้งเนื้อจะอร่อยกว่า หรือใครจะเปลี่ยนมาใช้กุ้งสดก็ได้ค่ะ
- ขั้นตอนที่ 2 : กะทิเดือดตามต้องการแล้วนำหน่อไม้ลงต้มได้เลยค่ะ จากนั้นตามด้วยกุ้งแห้งที่แช่น้ำไว้ก่อนหน้า คนให้เข้ากันแล้วเติมหัวกะทิลงไปพอประมาณ ปรุงรสด้วยน้ำตาลเล็กน้อยให้มีรสหวานปลาย ๆ รอจนกะทิเริ่มเดือดแล้วเราจะปิดท้ายด้วยสะตอและชะอม กดให้จมและรอจนกะทิเดือดอีกครั้ง ปิดเตาตักเสิร์ฟได้เลยค่ะ
2. กะเพราหน่อไม้หมู

กะเพราถือว่าเป็นเมนูกันตายของใครหลาย ๆ คน (รวมถึงเราด้วยค่ะ) แต่ถ้าใครเริ่มรู้สึกเบื่อกะเพราะเดิม ๆ แล้วเราอยากแนะนำให้ลองทานกะเพราหน่อไม้ดูค่ะ เพราะนอกจากหมูนุ่ม ๆ แล้วยังได้ความกรุบกรับจากหน่อไม้อีกด้วย บอกเลยว่าเพื่อน ๆ ทานแล้วจะต้องติดใจแน่นอน สำหรับเมนูนี้เราแนะนำให้ปรุงรสจัดจ้านและควรผัดให้แฉะ ๆ หน่อยนะคะ
วัตถุดิบกะเพราหน่อไม้หมู
- หมู
- กะเพรา
- พริกจินดาแดง
- กระเทียม
- น้ำปลา
- ซอสหอยนางรม
- ซีอิ๊วขาว
- น้ำตาล
- น้ำมันพืช
- น้ำเปล่า
วิธีทำกะเพราหน่อไม้หมูสับ
เด็ดใบกระเพราแล้วล้างให้สะอาด จากนั้นพักให้สะเด็ดน้ำไว้ก่อนค่ะ หันมาโขลกพริกกระเทียมให้พอหยาบแล้วนำลงผัดจนส่งกลิ่นหอม ใส่หมูสับแล้วผัดต่อจนหมูใกล้สุก ปรุงรสชาติด้วยน้ำปลา, ซอสหอยนางรม, ซีอิ๊วขาว และน้ำตาล ผัดให้เข้ากันแล้วตามด้วยหน่อไม้ ผัดต่อจนหน่อไม้นิ่มลงแล้วใส่ใบกะเพรา ถ้าส่วนผสมแห้งเกินไปให้เติมน้ำเปล่าเล็กน้อยค่ะ กะเพราสุกดีแล้วตักใส่จานเสิร์ฟได้เลย
3. แกงกะทิกุ้งสดหน่อไม้สับ

มาทำแกงทานกันบ้างดีกว่าค่ะ แกงกะทิหน่อไม้กุ้งสดเป็นเมนูที่ไม่ควรพลาดเลยค่ะถ้าคุณมีทั้งหน่อไม้และพริกแกงกะทิติดบ้านอยู่แล้ว ถึงจะเป็นแกงกะทิแต่เมนูนี้ไม่ได้มีรสชาติมันเลี่ยนเหมือนเมนูอื่น ๆ เพราะเราจะแกงแบบข้น ๆ หอมพริกแกงเตะจมูก ส่วนรสชาติจะต้องมีความผ็ดร้อนของพริกไทยค้างอยู่ในคอ เนื้อกุ้งจะต้องเด้ง ๆ หวาน ๆ ส่วนหน่อไม้สับจะมีความกรุบพอประมาณและแก่กำลังดีค่ะ
วัตถุดิบแกงกะทิกุ้งสดหน่อไม้สับ
- กุ้งสด
- หน่อไม้
- มะเขือพวง
- กะปิ
- พริกแกงกะทิ
- น้ำปลา
- น้ำตาลปี๊บ
- กะทิ
วิธีทำแกงกะทิกุ้งสดหน่อไม้สับ
- ขั้นตอนที่ 1 : ทำความสะอาดกุ้งเตรียมไว้ก่อนเลยค่ะ จากนั้นก็หันมาจัดการกับหน่อไม้ สำหรับแกงกะทิเราแนะนำให้ใช้หน่อไม้สับจะอร่อยกว่าหน่อไม้หั่นท่อนนะคะ เพราะขนาดของหน่อไม้จะไม่หนาจนเกินไปและเข้ากับกุ้งพอดีค่ะ ส่วนมะเขือพวงเราจะเด็ดออกจากขั้ว บุบให้พอแตกแล้วแช่น้ำเกลือไว้ก่อน
- ขั้นตอนที่ 2 : ผัดพริกแกงกับหัวกะทิจนเริ่มสุกหอม จากนั้นตามด้วยกะทิที่เหลือและกะปิ คนจนกะปิละลายดีแล้วนำห่อไม้ลงต้มเลยค่ะ รอจนแกงเดือดแล้วปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บเล็กน้อย ตามด้วยมะเขือพวง น้ำแกงเดือดอีกครั้งแล้วใส่กุ้ง กดให้จมแล้วรอกุ้งสุก ปิดเตาตักเสิร์ฟได้เลยจ้า
4. ต้มหน่อไม้หวานซี่โครงหมู

เปลี่ยนมาทานซุปร้อน ๆ กันบ้างดีกว่าค่ะ ต้มหน่อไม้หวานซี่โครงหมูเป็นอีกหนึ่งเมนูที่หลายคนน่าจะชอบค่ะ เพราะหน่อไม้ที่ใช้ทำเมนูนี้จะมีรสชาติหวานอ่อน ๆ และไม่ได้กรอบเหมือนหน่อไม้ประเภทอื่น ๆ เข้ากับซี่โครงหมูที่ต้มจนเปื่อยได้ลงตัวพอดี สำหรับเมนูนี้เราจะปรุงรสน้ำซุปให้มีรสชาติเค็มนำ ความหวานจะมาจากหน่อไม้และกระดูกหมู รวมไปถึงรสเผ็ดหอมของพริกไทยค่ะ
วัตถุดิบต้มหน่อไม้หวานซี่โครงหมู
- ซี่โครงหมู
- หน่อไม้หวาน
- รากผักชี
- กระเทียม
- พริกไทย
- เกลือ
- ซีอิ๊วขาว
- ซอสหอยนางรม
- น้ำเปล่า
วิธีทำต้มหน่อไม้หวานซี่โครงหมู
- ขั้นตอนที่ 1 : ล้างกระดูกหมูให้สะอาดแล้วนำมาต้มน้ำเดือดจัดจนเริ่มสุก ระหว่างนั้นบุบรากผักชี, กระเทียม และพริกไทยพอแตกเตรียมไว้ เสร็จแล้วหันมาเทกระดูกหมูที่ต้มไว้ใส่ภาชนะแล้วล้างเอาคราบเลือดและไขมันออกให้หมดค่ะ ส่วนหน่อไม้เราแนะนำให้เลือกซื้อทั้งหน่อแล้วนำมาฝานเป็นแผ่นบาง ๆ ไม่ควรหนาเกินไป
- ขั้นตอนที่ 2 : ต้มน้ำให้พอเดือด จากนั้นนำซี่โครงหมูลงหม้อได้เลยค่ะ ตามด้วยกระเทียม, รากผักชี และพริกไทยที่บุบไว้ ต้มไฟกลางค่อนอ่อนไปเรื่อย ๆ รอจนน้ำเดือดอีกครั้งแล้วปรุงรสด้วยเกลือ, ซีอิ๊วขาว และซอสหอยนางรมเล็กน้อย คนให้เข้ากันแล้วปิดฝาตุ๋นประมาณ 20 นาทีหรือจนกว่าหมูจะเริ่มเปื่อย
- ขั้นตอนที่ 3 : หมูเริ่มเปื่อยแล้วเราจะนำหน่อไม้ลงต้มเลยค่ะ ขั้นตอนนี้เราจะชิมและปรุงรสชาติเพิ่มเติมตามชอบ ปิดฝาตุ๋นต่อจนกว่าหมูจะเปื่อยได้ที่ จากนั้นปิดเตาแล้วตักเสิร์ฟร้อน ๆ ได้เลย
5. ผัดหน่อไม้หมูสับ

ผัดหน่อไม้หมูสับมีหน้าตาและส่วนผสมไม่ต่างจากผัดกะเพราเลยค่ะ แต่จุดเด่นของเมนูนี้จะอยู่ที่กลิ่นและรสเผ็ดเบา ๆ ของใบโหระพาที่หอมกว่ากะเพราหลายเท่า ในส่วนของรสชาติก็จะหนักไปทางเผ็ดเค็ม เน้นความเข้มข้นไม่เน้นหวาน ส่วนหน่อไม้จะมีความกรอบพอประมาณ เข้ากับหมูนุ่ม ๆ เด้ง ๆ ทานเมนูนี้ระวังข้าวหมดหม้อไม่รู้ตัวนะคะขอเตือนไว้ก่อน
วัตถุดิบผัดหน่อไม้หมูสับ
- หมูสับ
- หน่อไม้
- ใบโหระพา
- ใบมะกรูด
- กระเทียม
- พริกจินดาแดง
- น้ำตาล
- ซอสหอยนางรม
- ซีอิ๊วขาว
- ซอสปรุงรส
- น้ำมันพืช
วิธีทำผัดหน่อไม้หมูสับ
- ขั้นตอนที่ 1 : ฉีกใบมะกรูดและโหระพาเตรียมไว้ก่อนเลยค่ะ เสร็จแล้วหันมาจัดการโขลกพริกกระเทียมให้แหลกพอประมาณ ส่วนหน่อไม้แนะนำให้ใช้หน่อไม้แบบเส้นจะน่าทานกว่าหน่อไม้สับ จะเอามาหั่นเส้นเองหรือซื้อสำเร็จรูปก็ได้ค่ะ
- ขั้นตอนที่ 2 : นำพริกกระเทียมลงผัดจนหอมแล้วตามด้วยหมูสับ ผัดจนหมูเริ่มสุกแล้วปรุงรสชาติด้วยน้ำตาล, ซอสหอยนางรม, ซีอิ๊วขาว และซอสปรุงรส ผัดจนเข้ากันดีแล้วตามด้วยหน่อไม้ ผัดต่อจนหน่อไม้สุกดี ปิดท้ายด้วยใบมะกรูดและใบโหระพา ผัดต่อจนสุกแล้วปิดเตาตักเสิร์ฟได้เลยค่ะ
6. ผัดพริกแกงหน่อไม้ลูกชิ้นปลา

ผัดพริกแกงหน่อไม้ลูกชิ้นปลานี่ถือว่าเป็นเมนูเด็ดประจำร้านข้าวแกงเลยค่ะ ส่วนผสมดูไม่มีอะไรมากแต่รสชาติอร่อยเกินหน้าเกินตา ตัวลูกชิ้นปลาจะมีความนุ่ม ๆ เด้ง ๆ ส่วนหน่อไม้จะกรอบกำลังดี ในส่วนของพริกแกงควรจะมีความเผ็ดหอม กะทิไม่ได้ข้นหรือมันจนเกินไป หอมกลิ่นมะกรูดและโหระพาจาง ๆ และที่สำคัญก็คือเมนูนี้จะต้องมีน้ำขลุกขลิกเท่านั้น!
วัตถุดิบผัดพริกแกงหน่อไม้ลูกชิ้นปลา
- ลูกชิ้นปลา
- หน่อไม้
- ใบมะกรูด
- ใบโหระพา
- พริกแกงคั่ว
- กะทิ
- น้ำตาล
- น้ำปลา
- น้ำมันพืช
วิธีทำผัดพริกแกงหน่อไม้ลูกชิ้นปลา
- ขั้นตอนที่ 1 : ล้างลูกชิ้นปลาให้สะอาดแล้วนำมาผ่าครึ่งเตรียมไว้ จากนั้นเด็ดใบมะกรูดและใบโหระพาให้เรียบร้อย สำหรับเมนูนี้เราแนะนำให้ใช้หน่อไม้สับหรือหน่อไม้หั่นเส้นจะอร่อยและดูน่าทานกว่าแบบอื่น ๆ ค่ะ
- ขั้นตอนที่ 2 : นำพริกแกงลงผัดจนหอม ระหว่างนั้นเติมหัวกะทิลงไปทีละน้อยเพื่อไม่ให้พริกแกงแห้งจนเกินไป พริกแกงหอมดีแล้วนำลูกชิ้นปลาลงผัดก่อนจากนั้นตามด้วยหน่อไม้ ผัดจนหน่อไม้เริ่มสุกแล้วปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลเล็กน้อย ปิดท้ายด้วยใบโหระพาและใบมะกรูด ปิดเตาตักเสิร์ฟได้เลยค่ะ
7. แกงหน่อไม้ใบย่านาง

มาซดน้ำแกงร้อน ๆ ให้คล่องคอกันบ้างดีกว่าค่ะ แกงหน่อไม้ใบย่านางถือว่าเป็นเมนูเบสิคประจำร้านส้มตำเลยก็ว่าได้ค่ะ แกงหน่อไม้ที่อร่อยควรจะมีน้ำข้น ๆ และไม่เยอะจนเกินไป ยิ่งน้ำแกงเขียวเข้มเท่าไหร่ก็จะยิ่งนัวมากขึ้นเท่านั้น ส่วนผักก็ตามชอบเลยค่ะ ใครทานอะไรก็ใส่ไปโลดดด แต่ที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือหน่อไม้, เห็ด, ชะอม และใบแมงลักหอม ๆ
วัตถุดิบแกงหน่อไม้ใบย่านาง
- หน่อไม้
- เห็ด
- ผักตามชอบ
- ชะอม
- ตะไคร้
- กระเทียม
- ใบแมงลัก
- พริก
- หอมแดง
- ข้าวสารข้าวเหนียว
- น้ำปลาร้า
- น้ำปลา
- ผงชูรส
- น้ำใบย่านาง
- น้ำเปล่า
วิธีทำแกงหน่อไม้ใบย่านาง
- ขั้นตอนที่ 1 : ขั้นตอนแรกล้างทำความสะอาดผักทั้งหมดเตรียมไว้ก่อนเลยค่ะ ชิ้นไหนใหญ่เกินไปแนะนำให้หั่นเป็นขนาดพอดีคำก่อน แยกผักสุกง่ายและสุกยากออกจากกันเพื่อความสะดวกตอนใช้งาน เสร็จแล้วนำข้าวสารมาแช่น้ำทิ้งไว้จนพองแล้วโขลกจนละเอียด บุบตะไคร้และหอมแดงพอแตกแล้วโขลกพริกกระเทียมให้แหลก ไม่ต้องละเอียดมาก
- ขั้นตอนที่ 2 : ต้มน้ำเปล่าให้เดือดแล้วนำตะไคร้, พริกกระเทียม และหอมแดงลงหม้อเลยค่ะ อย่าเพิ่งใส่น้ำเยอะมากนะคะเพราะจะมีน้ำใบย่านางและน้ำจากผักออกมาอีกค่ะ รอจนน้ำเดือดแล้วใส่น้ำใบย่านางลงไปพอประมาณตามด้วยน้ำปลาร้า คนให้เข้ากันแล้วรอเดือด
- ขั้นตอนที่ 3 : น้ำเดือดดีแล้วนำผักสุกยากและหน่อไม้ลงก่อนเลยค่ะ ต้มจนใกล้สุกแล้วตามด้วยผักสุกง่าย ปรุงรสชาติด้วยน้ำปลาและผงชูรสเล็กน้อย ตามด้วยข้าวเหนียวโขลก คนให้เข้ากันแล้วปิดท้ายด้วยชะอมและใบแมงลัก กดให้โดนความร้อนจนทั่วแล้วปิดเตาตักเสิร์ฟได้เลย
8. ซุปหน่อไม้

ปิดท้ายกันด้วยซุปหน่อไม้นัว ๆ แซ่บ ๆ สำหรับสูตรนี้จะเป็นสูตรอีสานแท้เลยค่ะ ตัวหน่อไม้จะเป็นเส้นเล็กตามสูตรร้านส้มตำเป๊ะ ๆ! ใส่ทั้งผักแพว, ผักอีตู่ (ใบแมงลัก), ผักหอมเป (ผักชีฝรั่ง) และสมุนไพรแบบจุก ๆ เลยค่ะ ส่วนรสชาติไม่ต้องพูดถึงเพราะเผ็ดเค็มนัวนำมาก่อนอยู่แล้ว จ้ำข้าวเหนียวร้อน ๆ บอกเลยว่าแซ่บแฮง!`
วัตถุดิบซุปหน่อไม้
- หน่อไม้
- หอมแดง
- พริกสด
- ต้นหอม
- ผักชี
- ผักชีใบเลื่อย
- สะระแหน่
- ใบแมงลัก
- ผักแพว
- ข้าวคั่ว
- น้ำใบย่านาง
- น้ำปลาร้า
- น้ำปลา
- ผงชูรส
วิธีทำซุปหน่อไม้
- ขั้นตอนที่ 1 : นำหน่อไม้มาขูดเส้นก่อนเลยค่ะ เราจะขูดหน่อไม้ด้วยส้อม แนะนำให้เลือกอันที่แข็งแรงหน่อยนะคะ ขูดจากกลางไปจนถึงปลาย จากนั้นสลับด้านแล้วทำต่อไปเรื่อย ๆ จนได้เป็นเส้นหน่อไม้ วิธีนี้จะทำให้หน่อไม้อ่อนและถึงเครื่องมากขึ้น เสร็จแล้วคั่วหอมแดงและพริกสดให้ติดไหม้เล็กน้อยแล้วนำมาโขลกให้แหลกตามชอบ
- ขั้นตอนที่ 2 : ต้มหน่อไม้กับน้ำใบย่านางจนเดือด ใส่น้ำใบย่านางแค่พอขลุกขลิกก็พอนะคะ จากนั้นใส่น้ำปลาร้าและใบแมงลัก ต้มต่อจนสุกหอมแล้วยกขึ้นพักไว้ให้หายร้อนสนิท ระหว่างนั้นเราจะซอยผักชีฝรั่ง, ต้นหอม, ผักชี และผักแพวเตรียมไว้ หน่อไม้หายร้อนสนิทแล้วนำมาปรุงรสด้วยน้ำปลาและผงชูรส ตามด้วยเครื่องโขลก, ผักซอย และใบสะระแหน่ ปิดท้ายด้วยข้าวคั่วแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักเสิร์ฟได้เลยค่ะ
เป็นอย่างไนบ้างคะกับ 8 เมนูจากหน่อไม้สดที่เรานำมาแนะนำในบทความนี้ ตอนแรกคิดว่าหน่อไม้สดคงจะเอามาทำอะไรได้ไม่เยอะหรอก แต่เอาจริง ๆ ก็ทำได้หลายเมนูอยู่นะคะ โดยเฉพาะอาหารอีสานนี่คือแต่ละเมนูน่าทานไม่ไหว หรือจะเป็นอาหารใต้มีให้เลือกทานเยอะทั้งเมนูแก เมนูต้ม หรือแค่นำมาจิ้มน้ำพริกกะปิก็อร่อยแล้วค่ะ นอกจากนี้หน่อไม้ต้มยังสามารถเก็บได้นานอีกด้วย ช่วงไหนหน่อไม้มีราคาถูกอย่าลืมซื้อตุนกันไว้น้าาา ส่วนตอนนี้คงต้องขอตัวไปหาอะไรทานก่อนแล้วค่ะ บ้ายบายยยย